Start Up ศิษย์เก่า จ.ระนอง ผนึกเครือข่ายพัฒนาท้องถิ่น ตามนโยบายขับเคลื่อนศิษย์เก่า มรส.
วันนี้(12 ก.พ.66)ดร. พลกฤต แสงอาวุธ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและเครือข่ายศิษย์เก่า มอบหมายให้บุคลากรกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่จังหวัดระนองเพื่อขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานเครือข่ายศิษย์เก่า ในกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม Khao Ya Fest #2 ECO OF LOVE “ปรากฏการณ์ความสุขเทศกาลแห่งความรัก” ณ ภูเขาหญ้า ตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก องค์การบริหารส่วนตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนองสโมสรไลออนส์ระนอง สโมสรไลออนส์ระนองรัตนรังสรรค์ สมาชิก TO BE NUMBER ONE สำนักงานคุมประพฤติ จังหวัดระนอง ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในพื้นที่ เข้าร่วมพร้อมสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ ในการดำเนินกิจกรรม อาทิ อาหาร น้ำดื่ม ถุงดำ ถุงมือยาง รถจัดเก็บขยะ อีกด้วย:นายธีรพงศ์ แซ่จั่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ประธานในพิธีเปิดกิจกรรม กล่าวว่า ปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาตินั้นมีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลระยะยาวในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าของจังหวัดระนอง ในนามเจ้าของพื้นที่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เครือข่ายศิษย์เก่าหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในพื้นที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด ซึ่งได้ร่วมกันผลักดันให้เกิดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อร่วมกันรณรงค์ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ และมีส่วนร่วมในการจัดการกับปัญหาขยะในครั้งนี้
นายมนัส สุขวานิชวิชัย อดีตผู้ว่าการไลออนส์สากล ภาค 310 B ตัวแทนศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า คณะกรรมการดำเนินงานขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จังหวัดระนอง ได้ร่วมกับกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในงาน Khao Ya Fest #2 ECO OF LOVE “ปรากฏการณ์ความสุขเทศกาลแห่งความรัก” ในวันนี้ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงสถานที่สำคัญของจังหวัดระนอง ร่วมกับศิษย์ปัจจุบันและหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่ โดยการระดมศิษย์เก่าและหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเเละสร้างเครือข่ายในการพัฒนาท้องถิ่นให้ยั่งยืนต่อไป